ฤดูหนาวของไทยเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ในช่วงนี้อากาศจะเย็นลง อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์จะสูงขึ้น ทำให้ร่างกายมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม เป็นต้น
ดังนั้น การดูแลสุขภาพในช่วงฤดูหนาวจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ดังนี้
1. รักษาร่างกายให้อบอุ่น
อากาศที่เย็นลงจะทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนได้ง่าย จึงควรรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ โดยสวมใส่เสื้อผ้าที่หนาและรัดกุม คลุมศีรษะ สวมถุงมือ ถุงเท้า และรองเท้าที่ใส่สบาย หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อากาศหนาวจัดเป็นเวลานาน
- เสื้อผ้าที่ควรสวมใส่ในช่วงฤดูหนาว ได้แก่ เสื้อกันหนาว เสื้อสเวตเตอร์ หมวกไหมพรม ถุงมือ ถุงเท้า รองเท้าบูท รองเท้าหุ้มส้น เป็นต้น
- เสื้อผ้าควรสวมใส่ให้หนาพอที่จะป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียความร้อน แต่ไม่ควรหนาจนเกินไปจนทำให้อึดอัด
- ไม่ควรอยู่ในที่อากาศหนาวจัดเป็นเวลานาน เช่น อยู่ในห้องแอร์ที่มีอุณหภูมิต่ำเกินไป หรืออยู่กลางแจ้งที่มีลมหนาวแรง
- ดื่มน้ำบ่อยๆ การจิบน้ำช่วยให้ร่างกายมีความชุ่มชื่น
2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ในช่วงฤดูหนาวจึงควรรับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ เน้นผักและผลไม้สด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงและน้ำตาลสูง
- ผักและผลไม้สดเป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินซี วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- อาหารที่มีไขมันสูงและน้ำตาลสูงจะส่งผลเสียต่อสุขภาพหลายประการ รวมถึงทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำลง
3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น ในช่วงฤดูหนาวควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ เลือกออกกำลังกายในที่ร่มหรือในช่วงที่มีอากาศไม่หนาวจัด
- การออกกำลังกายที่เหมาะสมในช่วงฤดูหนาว ได้แก่ การเดิน การวิ่ง การเต้นแอโรบิก เป็นต้น
- ควรเลือกออกกำลังกายในที่ร่มหรือในช่วงที่มีอากาศไม่หนาวจัด เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียความร้อนมากเกินไป
4. ล้างมือบ่อยๆ
การล้างมือบ่อยๆ จะช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ แนะนำให้ล้างมือด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที หรือใช้เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อย่างน้อย 60%
- ควรล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ หลังสัมผัสสิ่งสกปรก หรือหลังจากสัมผัสผู้อื่นที่ป่วย
5. พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น ในช่วงฤดูหนาวควรนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
- ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน เพื่อช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
6. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์จะส่งผลเสียต่อสุขภาพหลายประการ รวมถึงทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำลง ในช่วงฤดูหนาวจึงควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- การสูบบุหรี่จะทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำลง
- การดื่มแอลกอฮอล์จะส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอและไวต่อการติดเชื้อ
7. ดูแลสุขภาพเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว
ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน ควรดูแลสุขภาพเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจเช็คสุขภาพและรับยาตามคำแนะนำของแพทย์
- ควรดูแลสุขภาพตนเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้โรคประจำตัวกำเริบ
นอกจากการดูแลสุขภาพตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว ในช่วงฤดูหนาวควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วย และหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ จาม น้ำมูกไหล เจ็บคอ ไข้ ควรรีบไปพบแพทย์
การดูแลสุขภาพในช่วงฤดูหนาวอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ช่วยให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย