เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็เริ่มเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง น้ำตาลในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคกระดูกและข้อ โรคอัลไซเมอร์ เป็นต้น
การดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากสมุนไพรมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย สามารถช่วยป้องกันและรักษาโรคต่างๆ ได้
สมุนไพรที่มีสรรพคุณดีต่อสุขภาพผู้สูงอายุ
สมุนไพรที่มีสรรพคุณดีต่อสุขภาพผู้สูงอายุ ได้แก่
- บัวบก มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ บำรุงสมอง บำรุงสายตา แก้ช้ำใน แก้อ่อนเพลีย แก้ปวดเมื่อย
บัวบกเป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงสมอง บำรุงสายตา แก้ช้ำใน แก้อ่อนเพลีย แก้ปวดเมื่อย
กลไกการออกฤทธิ์
บัวบกมีสารสำคัญหลายชนิด เช่น สารไบโอฟลาโวนอยด์ สารแทนนินและสารอะเซทิลโคลีน สารเหล่านี้ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงสมอง บำรุงสายตา แก้ช้ำใน แก้อ่อนเพลีย แก้ปวดเมื่อยได้ดังนี้
- สารไบโอฟลาโวนอยด์ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์
- สารแทนนิน ช่วยห้ามเลือด แก้ช้ำใน
- สารอะเซทิลโคลีน ช่วยบำรุงสมอง บำรุงสายตา
ตัวอย่างการศึกษาวิจัย
การศึกษาวิจัยในสัตว์พบว่า บัวบกช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงหัวใจ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด การศึกษาวิจัยในมนุษย์พบว่า บัวบกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย ช่วยลดอาการปวดเมื่อย
วิธีใช้
บัวบกสามารถนำมารับประทานในรูปแบบต่างๆ เช่น
- รับประทานสด โดยการเด็ดใบบัวบกสดมาล้างให้สะอาด แล้วรับประทานเป็นผักสด
- ต้มดื่ม โดยการต้มใบบัวบกแห้งกับน้ำเปล่าหรือน้ำสมุนไพรอื่นๆ
- ชงเป็นชา โดยการชงใบบัวบกแห้งกับน้ำร้อน
- ทำเป็นยาแคปซูล
ข้อควรระวัง
ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้สมุนไพรบัวบก โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ และโรคเลือด เป็นต้น
ขมิ้นชัน มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้โรคกระเพาะ แก้โรคลำไส้อักเสบ แก้โรคข้ออักเสบ
ขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่มีสารสำคัญคือ สารเคอร์คูมิน (Curcumin) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อโรค ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
กลไกการออกฤทธิ์
สารเคอร์คูมินในขมิ้นชันช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อโรค ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดังนี้
- สารเคอร์คูมินช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์
- สารเคอร์คูมินช่วยยับยั้งกระบวนการอักเสบ
- สารเคอร์คูมินช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
- สารเคอร์คูมินช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยลดความดันโลหิต
- สารเคอร์คูมินช่วยยับยั้งการสร้างไขมัน LDL ช่วยลดไขมันในเลือด
- สารเคอร์คูมินช่วยเพิ่มการหลั่งอินซูลิน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
ตัวอย่างการศึกษาวิจัย
การศึกษาวิจัยในสัตว์พบว่า ขมิ้นชันช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ การศึกษาวิจัยในมนุษย์พบว่า ขมิ้นชันช่วยบรรเทาอาการปวด อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาการโรคกระเพาะ อาการโรคลำไส้อักเสบ อาการโรคข้ออักเสบ
วิธีใช้
ขมิ้นชันสามารถนำมารับประทานในรูปแบบต่างๆ เช่น
- รับประทานสด โดยการฝานขมิ้นชันสดเป็นชิ้นบางๆ แล้วรับประทาน
- ต้มดื่ม โดยการต้มขมิ้นชันสดหรือขมิ้นชันผงกับน้ำเปล่าหรือน้ำสมุนไพรอื่นๆ
- ชงเป็นชา โดยการชงขมิ้นชันผงกับน้ำร้อน
- ทำเป็นยาแคปซูล
ข้อควรระวัง
ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้สมุนไพรขมิ้นชัน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ และโรคเลือด เป็นต้น
