เกาหลีใต้กำลังเผชิญเหตุการณ์สะเทือนวงการการเมืองและกฎหมาย เมื่ออัยการพิเศษได้ยื่น หมายจับ “คิม กอน ฮี” อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง และภรรยาของอดีตประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล ในข้อหาปั่นหุ้นและรับสินบน

การดำเนินคดีครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียงหนึ่งวันหลังจากที่อัยการได้สอบปากคำคิม กอน ฮีนานกว่า 12 ชั่วโมง โดยเหตุผลสำคัญคือการมีส่วนพัวพันในคดีปั่นหุ้น Deutsch Motors ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์รายใหญ่ ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรงด้านเศรษฐกิจ และยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการทำลายหลักฐาน
สิ่งที่ทำให้คดีนี้เป็นที่จับตามองอย่างยิ่ง คือ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศที่มีการออกหมายจับต่อภริยาของผู้นำเกาหลีใต้ ขณะนี้ศาลแขวงกลางกรุงโซลมีกำหนดพิจารณาคำร้องในต้นสัปดาห์หน้า
ความเคลื่อนไหวของอดีตผู้นำ
ด้านอดีตประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล ก็ไม่พ้นจากกระบวนการยุติธรรม เขากำลังเผชิญข้อหาหลายประการ ตั้งแต่การประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ไปจนถึงการใช้โพลสำรองหาเสียงอย่างมิชอบ
นับตั้งแต่ถูกควบคุมตัวเมื่อ 10 กรกฎาคม ยุนมีท่าทีปฏิเสธการให้ความร่วมมือกับการสอบสวน และสองครั้งที่ผ่านมาได้ปฏิเสธที่จะให้ปากคำ แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามนำตัวออกมาสอบสวน แต่ก็ต้องยุติภารกิจด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
รายงานข่าวระบุว่า ความพยายามจับกุมเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมล้มเหลว เนื่องจากยุนใช้วิธีนอนกับพื้นในชุดชั้นในเพื่อขัดขวางการนำตัวออกจากสถานที่ควบคุมตัว โดยทนายความอ้างว่าหมายจับใกล้หมดอายุ
เสียงจากฝ่ายกฎหมายและรัฐบาล
ฝ่ายกฎหมายของยุนมองว่าการดำเนินคดีมีแรงจูงใจทางการเมือง และย้ำว่ากฎหมายไม่สามารถบังคับให้ผู้ต้องสงสัยต้องให้การได้ ขณะที่ จอง ซอง โฮ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ออกคำสั่งให้อัยการดำเนินการตามหมายจับอย่างเป็นกลาง
แม้จะคาดการณ์ได้ว่า หากสามารถพาตัวยุนมาสอบสวนได้ เขาก็อาจไม่ให้ความร่วมมือ แต่อัยการก็มีแนวโน้มที่จะดำเนินคดีต่อไปแม้ไม่มีคำให้การจากจำเลย
เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นบททดสอบสำคัญของระบบยุติธรรมเกาหลีใต้ แต่ยังสะท้อนถึงความตึงเครียดทางการเมืองที่ยังคุกรุ่น การออกหมายจับอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ และอาจส่งผลสั่นสะเทือนต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของสถาบันการเมืองในประเทศต่อไป